หากคุณกำลังจะเข้ารับการนวดแผนไทย สิ่งแรกที่ควรเริ่มคิดถึงคือ ประเภทหรือสไตล์ของการนวดแผนไทย ที่คุณต้องการ เพราะมีเทคนิคและวิธีการที่หลากหลายให้เลือกใช้กับแต่ละบุคคล เทคนิคแต่ละแบบมักให้ผลลัพธ์คล้ายกันคือทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นหลังจบการนวด การรู้ว่าคุณต้องการอะไรตั้งแต่ก้าวเข้าประตูไป จะช่วยให้ทั้งคุณและนักบำบัดเข้าใจตรงกันว่าจะทำอย่างไรให้คุณรู้สึกสบายที่สุด
รูปแบบแรกของการนวดแผนไทยที่คุณสามารถเลือกได้คือ นวดแผนไทยสไตล์เหนือและสไตล์ใต้ ซึ่งถือเป็นสองสายหลักของการนวดแผนไทยในประเทศไทย โดยทั่วไปแล้วสไตล์ทั้งสองนี้จะถูกสอนในโรงเรียนสอนนวด และเป็นเทคนิคที่นักบำบัดนิยมใช้กับลูกค้า จุดเด่นของสไตล์นี้คือการเน้นการยืดเหยียดและเพิ่มการเคลื่อนไหวของร่างกาย พร้อมกับการลงน้ำหนักที่ค่อนข้างช้ากว่าสไตล์อื่น
ต่อมาคือ นวดแผนไทยราชสำนักและนวดแผนไทยชาวบ้าน ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน การนวดแบบราชสำนักนั้นมักปฏิบัติกันเฉพาะในราชสำนักหรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีตำแหน่งสูง นักบำบัดจะทำการนวดในลักษณะสุภาพ เช่น นั่งคุกเข่าตลอดเวลา และไม่ข้ามตัวผู้รับบริการเพื่อแสดงความเคารพ ส่วนการนวดแบบชาวบ้านจะมีความเป็นอิสระมากกว่า นักบำบัดสามารถใช้นิ้ว หัวแม่มือ แขน เข่า หรือส่วนใดของร่างกายที่ช่วยสร้างแรงกดหรือกดจุดได้ ทำให้สามารถทำงานใกล้ชิดกับผู้รับบริการได้มากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องมารยาทเข้มงวดแบบราชสำนัก
นอกจากนี้ยังมี การนวดจับเส้น หรือ Jap Sen ที่ได้รับความนิยมมากในจังหวัดเชียงใหม่ เทคนิคนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะเป็นการ “ดีด” หรือ “สะกิด” เส้นพลังงาน (เส้นประธาน) กล้ามเนื้อและเส้นประสาทจะถูกคลึงให้ “คลายตัว” ซึ่งบางครั้งอาจรู้สึกเจ็บสำหรับผู้รับบริการ
ที่โรงเรียนนวดไทยของเรา นักบำบัดที่ได้รับใบอนุญาตและผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และเทคนิคต่าง ๆ ของการนวดแผนไทย รวมถึงวิธีการทำให้บริการนวดตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้สูงที่สุด หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม คุณสามารถติดต่อทีมงานของเราได้ทุกเมื่อ